Бесплатно

เส้นทางแห่งวีรบุรุษ

Текст
0
Отзывы
iOSAndroidWindows Phone
Куда отправить ссылку на приложение?
Не закрывайте это окно, пока не введёте код в мобильном устройстве
ПовторитьСсылка отправлена
Отметить прочитанной
Шрифт:Меньше АаБольше Аа

“ข้าเองก็อยากจะถามเจ้าเช่นกัน” ทรงโยนคำถามกลับไป “ที่จริงข้าคิดว่าข้ามีสิ่งที่ต้องเสียมากกว่าเจ้าเสียอีก ถึงอย่างไรข้าก็เป็นเชื้อพระวงศ์ และเจ้าเป็นสามัญชน ข้าแก่กว่า และเจ้าเด็กกว่า เจ้าไม่คิดหรือว่าข้าต่างหากคือคนที่ต้องระวังมากกว่า? ในราชสำนักต่างซุบซิบกันเรื่องเจ้า ฐานะทางสังคมที่สูงขึ้นของเจ้า ว่าเจ้าหลอกใช้ข้า และหวังเพียงยศถาบรรดาศักดิ์ เจ้าต้องการการสนับสนุนให้ได้พบพระราชา ข้าควรจะเชื่อเรื่องพวกนั้นไหม?”

ธอร์รู้สึกตกใจ

“ไม่จริงเลย เจ้าหญิง! ข้าไม่เคย สิ่งเหล่านี้ไม่เคยอยู่ในความคิดข้า ข้าอยู่กับพระองค์เพียงเพราะข้าไม่อาจคิดถึงการไปอยู่ที่อื่นได้ เพียงเพราะข้าอยากจะอยู่กับพระองค์ เพียงเพราะเวลาที่ไม่ได้อยู่กับพระองค์ ข้าไม่อาจคิดถึงสิ่งอื่นได้”

เจ้าหญิงทรงแย้มสรวลน้อย ๆ ที่มุมพระโอษฐ์ เขาว่าสีพระพักตร์เริ่มดีขึ้น

“เจ้าเป็นคนมาใหม่ที่นี่” ทรงตรัส “เป็นคนใหม่ในราชสำนัก ใหม่กับวิถีของราชวงศ์ เจ้าต้องการเวลาเรียนรู้ว่ามันเป็นเช่นไร ที่นี่ไม่มีใครหมายความตามที่พูดออกมา ทุกคนมีวาระซ่อนเร้น ทุกคนใช่เล่ห์เหลี่ยมเพื่ออำนาจ หรือยศถาบรรดาศักดิ์ ความร่ำรวย และตำแหน่ง ทุกคนเห็นแก่หน้าตา และต่างมีสายลับของตัวเอง พรรคพวกและสิ่งที่ต้องการ ตัวอย่างเช่น เมื่ออัลทันมาพูดกับเจ้าว่าได้เตรียมการอภิเษกกับข้าแล้วนั้น ที่เขาทำจริง ๆ คือพยายามหาว่าเจ้าสนิทกับข้าเพียงใด เขาต้องการข่มขู่ และเขาอาจจะไปรายงานให้ใครบางคนรู้ สำหรับเขาการแต่งงานไม่ได้หมายถึงความรัก มันหมายถึงการรวมกัน การได้มาซึ่งเงินทอง ตำแหน่ง และทรัพย์สมบัติเท่านั้น ในราชสำนักไม่มีอะไรเป็นอย่างที่เห็นหรอก”

จู่ ๆ โครห์นก็วิ่งหนีไป วิ่งลงไปตามทางเดินในป่าและไปยังที่โล่ง

เจ้าหญิงเกว็นทอดพระเนตรธอร์แล้วหัวเราะ นางทรงเอื้อมพระหัตถ์ไปจับมือเขาไว้แล้วพาวิ่งไปด้วยกัน

“มาเร็ว!” ทรงตะโกนอย่างตื่นเต้น

ทั้งสองวิ่งลงไปตามทางและโผล่พรวดเข้าไปในที่โล่งกว้าง พลางหัวเราะ ธอร์ตกใจกับภาพที่เห็น มันเป็นทุ่งหญ้ากลางป่าที่สวยงาม เต็มไปด้วยดอกไม้ป่าหลากสีสันสูงถึงเข่า นกและผีเสื้อทุกสีทุกขนาดเริงระบำและโผผินไปในอากาศ ทุ่งหญ้ามีชีวิตชีวาด้วยเสียงจิ๊บ ๆ ดวงอาทิตย์ส่องแสงสว่างไสว มันเป็นเหมือนกับสถานที่ลับ หลบซ่อนอยู่ภายในนี้ ท่ามกลางป่าทึบทะมึน

“เจ้าเคยเล่นเกมคนตาบอดของเพชรฆาตไหม?” เจ้าหญิงตรัสถาม

ธอร์สั่นศีรษะ และก่อนที่เขาจะตอบอะไร เจ้าหญิงทรงดึงผ้าซับพระพักตร์จากพระศอ แล้วเอื้อมไปพันปิดตาธอร์ไว้ ผูกผ้าไว้ด้านหลัง ทำให้เขามองไม่เห็น แล้วทรงหัวเราะคิกคักดังอยู่ข้างหูของเขา

“เจ้าเป็น!” ทรงตรัสบอก

แล้วเขาก็ได้ยินเสียงนางวิ่งห่างไปบนพื้นหญ้า

เขายิ้ม

“แล้วข้าต้องทำอะไรล่ะ?” เขาตะโกน

“หาข้าให้พบ!” เจ้าหญิงทรงตะโกนบอก

เสียงดังมาจากที่ไกลออกไป

ธอร์ที่ถูกปิดตาเริ่มเดินตามนางไป เดินสะดุดไปตามทาง เขาเงี่ยหูฟังเสียงเสียดสีของฉลองพระองค์ พยายามไปตามทางที่เสด็จ มันยากมาก เขาวิ่งไปโดยยื่นมือไปข้างหน้า คิดอยู่ตลอดว่าเขาอาจจะวิ่งไปชนต้นไม้ แม้จะรู้ว่ามันเป็นทุ่งหญ้าโล่ง ในไม่ช้าเขาก็หลงทิศและรู้สึกว่าตัวเองวิ่งเป็นวงกลม

แต่เขายังพยายาม ได้ยินเสียงหัวเราะดังอยู่ไกล ๆ และคอยหันไปตามเสียง บางครั้งก็ดูเหมือนใกล้เข้าไป แล้วก็เหมือนห่างออกมา เขาเริ่มรู้สึกเวียนหัว

ธอร์ได้ยินโครห์นวิ่งอยู่ข้าง ๆ ร้องเสียงแหลม เขาหันมาฟังเสียงมันแทน แล้วตามมันไป เมื่อเขาทำเช่นนั้น เสียงหัวเราะของเจ้าหญิงดังขึ้นเรื่อย ๆ ธอร์รู้ว่าโครห์นกำลังนำเขาไปหานาง เขาประหลาดในความฉลาดของมันที่เข้ามาร่วมเล่นด้วย

ในไม่ช้า เขาก็ได้ยินเสียงเจ้าหญิงอยู่ห่างไปเพียงฟุตเดียว และวิ่งไล่ตาม โดยวิ่งเลี้ยวไปมาทั่วทุ่งหญ้า เขายื่นมือออกไป ขณะที่เจ้าหญิงส่งเสียงกรีดร้องอย่างยินดีเมื่อเขาจับโดนปลายฉลองพระองค์ เมื่อธอร์คว้าองค์ไว้ได้ เขาสะดุดแล้วทั้งสองก็ล้มลงไปด้วยกันบนทุ่งหญ้านุ่ม เขาหมุนตัวในวินาทีสุดท้าย เพื่อที่เขาจะล้มลงไปก่อนและให้นางอยู่บนตัวเขา ช่วยรองไว้ก่อนจะล้ม

เมื่อธอร์ล้มลงไปบนพื้นและเจ้าหญิงเกว็นอยู่บนตัวเขา ทรงกรีดร้องออกมาอย่างประหลาดใจ นางยังทรงหัวเราะคิกคักขณะที่เอื้อมมือมาถึงผ้าซับพระพักตร์ออก

หัวใจธอร์เต้นรัวเร็วเมื่อเห็นพระพักตร์อยู่ห่างจากเขาเพียงไม่กี่นิ้ว เขารู้สึกถึงน้ำหนักของเจ้าหญิงบนตัวเขา ในฉลองพระองค์ฤดูร้อนบางเบา ทำให้รู้สึกถึงทุกสัดส่วนของพระวรกาย น้ำหนักของเจ้าหญิงทิ้งลงมาบนตัวเขาอย่างเต็มที่ และไม่ได้ทรงขยับองค์เพื่อขัดขืน เจ้าหญิงทรงจ้องเข้าไปในดวงตาของเขา ลมหายใจของทั้งคู่ถี่กระชั้น นางไม่ทรงหลบตา เขาเองก็ไม่เช่นเดียวกัน หัวใจของธอร์รัวกระหน่ำ เขาตั้งสมาธิไม่ได้เลย

ทันใดนั้น เจ้าหญิงทรงก้มลงมาประทับริมพระโอษฐ์ลงบนริมฝีปากเขา มันช่างนุ่มนวลเกินกว่าที่เขาคิดฝัน ในตอนนั้นเป็นครั้งแรกในชีวิตที่เขารู้สึกมีชีวิตจริง ๆ

ธอร์หลับตาลง ขณะที่เจ้าหญิงก็หลับพระเนตรลง ทั้งสองไม่ขยับ เขาไม่รู้ว่าริมฝีปากสัมผัสกันนานเท่าไร เขาอยากจะหยุดเวลานี้ไว้

ในที่สุด เจ้าหญิงเกว็นก็ทรงผละออกห่าง ยังคงแย้มพระสรวล ขณะที่ทรงลืมพระเนตรขึ้น และยังคงประทับนอนอยู่อย่างนั้น บนตัวเขา

พวกเขานอนอยู่อย่างนั้นอยู่นาน จ้องมองดวงตาของกันและกัน

“เจ้ามาจากที่ไหน?” ทรงถามเสียงแผ่ว พลางแย้มสรวล

เขายิ้มตอบ ไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไร

“ข้าเป็นเพียงคนธรรมดา” เขาทูล

เจ้าหญิงทรงส่ายพระพัตร์แล้วแย้มสรวล

“ไม่ เจ้าไม่ใช่คนธรรมดา ข้ารู้สึกได้ ข้าว่าเจ้าห่างไกลจากคนธรรมดาไปมาก มาก มากทีเดียว”

เจ้าหญิงทรงก้มลงและจุมพิตเขาอีก เมื่อริมฝีปากสัมผัสกันคราวนี้ยิ่งเนิ่นนาน เขายื่นมือขึ้นไปลูบไล้พระเกศา ขณะที่เจ้าหญิงทรงสัมผัสเส้นผมของเขา เขาไม่อาจห้ามหัวใจไม่ให้เต็นเร็ว

ธอร์สงสัยว่ามันจะจบลงอย่างไร พวกเขาจะได้อยู่ด้วยกันหรือไม่ ทั้งที่มีพลังขวางกั้นระหว่างพวกเขา? เป็นไปได้ไหมที่ทั้งสองจะได้ครองคู่กันจริง ๆ?

ธอร์หวังยิ่งกว่าที่เคยหวังสิ่งใดในชีวิตว่าพวกเขาจะได้ครองคู่กัน เขาอยากจะอยู่กับเจ้าหญิงในตอนนี้ ยิ่งกว่าที่เคยอยากเข้าร่วมในกองทหารยุวชน

ขณะที่เขากำลังคิดอยู่นั้น มีเสียงแกรกกรากในทุ่งหญ้า ทำให้ทั้งสองตกใจและหันไปดู พบโครห์นกระโดดออกมาจากกอหญ้า ห่างไปเพียงฟุตเดียว แล้วก็มีเสียงแกรกกรากดังขึ้นอีก โครห์นร้องเสียงแหลมแล้วคำราม จากนั้นมีเสียงขู่ฟ่อดังขึ้น ในที่สุดก็เงียบเสียงลง

เจ้าหญิงเกว็นพลิกองค์ลงจากตัวเขา ทั้งสองลุกขึ้นนั่งและมองไป ธอร์กระโดดลุกขึ้นยืนเพื่อปกป้องเจ้าหญิง พลางสงสัยว่ามันคืออะไร เขาไม่เห็นใคร แต่จะต้องมีบางคน หรือบางสิ่งที่นั่นแน่ ตรงที่ห่างออกไปเพียงฟุตเดียว ในกอหญ้าสูง

โครห์นปรากฏตัวขึ้นตรงหน้า ในปากของมัน บนเขี้ยวแหลมคมเล็ก ๆ ของมันมีงูสีขาวตัวใหญ่อ่อนปวกเปียกห้อยอยู่ มันน่าจะยาวถึงสิบฟุต ผิวหนังสีขาวเป็นประกายวาว ลำตัวหนาเท่ากับกิ่งไม้ใหญ่

ธอร์รู้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น โครห์นได้ช่วยชีวิตของทั้งสองไว้จากสัตว์เลื้อยคลานอันตรายตัวนี้ ใจเขาเต้นเร็วด้วยความรู้สึกขอบคุณเจ้าลูกเสือ

เจ้าหญิงเกว็นทรงอ้าปากค้าง

“งูหลังขาว” ทรงตรัสขึ้น “งูพิษร้ายแรงที่สุดในอาณาจักร”

ธอร์จ้องมองมันอย่างหวาดกลัว

“ข้าคิดว่างูนี่ไม่มีอยู่เสียอีก คิดว่าเป็นเพียงตำนาน”

“มันหายากมาก” เจ้าหญิงเกว็นตรัสบอก “ข้าเคยเห็นเพียงครั้งเดียวในชีวิต วันที่เสด็จปู่สิ้นพระชนม์ มันเป็นลางบอกเหตุ”

เจ้าหญิงทรงหันไปหาธอร์

“มันหมายความว่าความตายกำลังมา ความตายของใครสักคนที่ใกล้ชิด”

ธอร์รู้สึกเย็นวาบไปตามสันหลัง จู่ ๆ ก็มีลมหนาวพัดมาในทุ่งหญ้ากลางฤดูร้อนนี้ และเขารู้อย่างแน่ใจเต็มที่ว่าทรงตรัสถูกต้อง

บทที่ 25

เจ้าหญิงเกว็นโดลินเสด็จเพียงลำพังอยู่ในปราสาท กำลังขึ้นบันไดวนที่คดเคี้ยวไปยังชั้นบน ใน

พระหทัยคิดถึงเรื่องธอร์ คิดถึงการเดินเล่น จุมพิต และงูพิษ

เจ้าหญิงทรงร้อนรุ่มด้วยอารมณ์ที่หลากหลาย อารมณ์หนึ่งทรงมีความสุขที่ได้อยู่กับเขา แต่อีกอารมณ์ ทรงพรั่นพรึงเพราะเจ้างูพิษ และลางสังหรณ์แห่งความตายที่มันนำมาด้วย แต่ไม่ทรงรู้ว่าหมายถึงใคร และไม่อาจขจัดความคิดนี้ออกไปจากใจได้ พระนางทรงกลัวว่าอาจจะเป็นคนใดคนหนึ่งในราชวงศ์ อาจจะเป็นพี่น้องคนใดคนหนึ่ง? ก็อดฟรีย์? เคนดริค? อาจจะเป็นพระมารดา? หรือ...ทรงตัวสั่นเมื่อคิดถึง...พระบิดา?

การได้เห็นงูตัวนั้นทำให้วันอันเบิกบานต้องหม่นหมองลง และเมื่ออารมณ์แตกสลายไปแล้ว ก็ยากจะกลับคืนมาได้ ทั้งสองจึงเดินกลับมายังปราสาทด้วยกัน แต่แยกจากกันก่อนที่จะพ้นแนวป่า เพื่อที่จะได้ไม่มีใครเห็น สิ่งสุดท้ายที่ทรงต้องการคือการที่พระมารดาเห็นทั้งสองอยู่ด้วยกัน แต่เจ้าหญิงเกว็นจะไม่ยอมแพ้เรื่องธอร์ง่าย ๆ พระนางจะต้องหาทางต่อกรกับพระมารดา ทรงต้องการเวลาคิดวางแผนกลยุทธ์

เมื่อทรงคิดย้อนไป มันช่างเจ็บปวดที่ต้องแยกจากธอร์ พระนางทรงรู้สึกไม่ดี เจ้าหญิงทรงอยากจะถามว่าเขาจะเจอนางอีกหรือไม่ อยากวางแผนสำหรับวันต่อไป แต่ยังทรงรู้สึกสับสนและว้าวุ่นใจกับการได้เห็นงูที่ทรงลืมไปแล้ว ตอนนี้เจ้าหญิงทรงกังวลว่าเขาอาจจะคิดว่าพระนางทรงไม่สนใจเขา

วินาทีที่เสด็จมาถึงปราสาท มหาดเล็กของพระราชาเข้ามาทูลเชิญเสด็จ หลังจากนั้นก็ทรงรีบขึ้นบันไดไป พระหทัยเต้นเร็ว และสงสัยว่าทำไมพระบิดาจึงทรงต้องการจะพบพระนาง มีใครเห็นเจ้าหญิงอยู่กับธอร์อย่างนั้นหรือ? ไม่มีสาเหตุอื่นที่พระบิดาจะทรงต้องการพบพระนางเร่งด่วนเช่นนี้ พระองค์จะทรงห้ามไม่ให้พบกับเขาอย่างนั้นหรือ? เจ้าหญิงไม่อยากจะคิดว่าจะทรงทำเช่นนั้น เพราะพระบิดามักจะทรงเข้าข้างพระนางเสมอ

เจ้าหญิงเกว็น ทรงหายใจแทบไม่ทัน เมื่อในที่สุดก็เสด็จขึ้นไปถึงชั้นบน แล้วทรงพระดำเนินไปตามทางเดิน ผ่านมหาดเล็กที่ถวายคำนับและเปิดประตูถวาย มหาดเล็กอีกสองคนรออยู่ด้านในและถวายคำนับเมื่อเห็นพระนาง

“ออกไปได้” พระบิดาตรัสบอกพวกเขา

ทั้งหมดถวายคำนับแล้วรีบออกจากห้องไป โดยปิดประตูตามหลังทำให้เกิดเสียงสะท้อนดังก้อง

พระบิดาทรงลุกขึ้นจากโต๊ะทรงพระอักษร มีรอยแย้มสรวลบนพระพักตร์ แล้วเสด็จข้ามห้องกว้างมาหา เจ้าหญิงทรงรู้สึกผ่อนคลาย เหมือนเช่นทุกครั้งที่ทรงเห็นพระบิดา และทรงรู้สึกโล่งอกที่ไม่เห็นว่าทรงกริ้ว

“เกว็นโดลินของพ่อ” พระราชาตรัส

ราชาแม็คกิลทรงยื่นพระหัตถ์มาสวมกอดธิดา ซึ่งทรงกอดตอบ แล้วทรงนำธิดาไปยังพระเก้าอี้ตัวใหญ่สองตัว ที่ตั้งทำมุมอยู่ข้างเตาผิงที่กำลังปะทุ สุนัขล่าเนื้อขนาดใหญ่หลายตัว ซึ่งส่วนใหญ่เจ้าหญิงทรงคุ้นเคยมาตั้งแต่ทรงพระเยาว์ เดินหลบไปพ้นทาง เมื่อทั้งสองเสด็จไปยังเตาผิง มีสองตัวเดินตามเจ้าหญิงแล้วเกยคางลงบนตัก พระนางทรงพอใจที่มีเตาผิง เพราะอากาศเย็นอย่างผิดปกติสำหรับฤดูร้อน

พระบิดาเอนวรกายเข้าผิงไฟ แล้วทอดพระเนตรเปลวไฟที่แตกปะทุอยู่ตรงหน้า

“เจ้ารู้ไหมว่าทำไมพ่อถึงเรียกมาพบ?” พระบิดาตรัสถาม

เจ้าหญิงทรงมองอย่างค้นคว้าแต่ยังคงไม่มั่นใจ

“ข้าไม่ทราบ พระบิดา”

พระราชาทอดพระเนตรมาอย่างประหลาดพระทัย

“เรื่องที่เราคุยกันเมื่อวันก่อน พร้อมกับพี่น้องของเจ้า เรื่องการสืบทอดราชบัลลังก์ นั่นคือเรื่องที่พ่ออยากจะคุยกับเจ้า”

เจ้าหญิงเกว็นทรงโล่งอก ที่ไม่เกี่ยวกับเรื่องธอร์ แต่เป็นเรื่องการเมือง การเมืองโง่เง่าที่ไม่ได้ทรงสนพระทัยเลย พระนางทรงถอนหายใจอย่างโล่งอก

“เจ้าดูผ่อนคลาย” พระราชาตรัส “เจ้าคิดว่าเราจะคุยเรื่องอะไรกัน?”

 

พระบิดาทรงพระปรีชาเสมอ พระองค์ทรงเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่สามารถอ่านพระนางได้เหมือนอ่านหนังสือ เจ้าหญิงต้องทรงระวังตัวเมื่ออยู่ใกล้พระบิดา

“ไม่มีอะไรเพคะ พระบิดา” ทรงรีบทูลตอบ

พระราชาแย้มพระสรวลอีก

“ถ้าเช่นนั้น บอกพ่อสิ เจ้าคิดยังไงกับการเลือกของพ่อ?”

“การเลือก?” เจ้าหญิงทูลถาม

“สำหรับรัชทายาท! ที่จะครองอาณาจักร!”

“ทรงหมายถึงลูกหรือเพคะ?” เจ้าหญิงทูลถาม

“จะใครเสียอีก?” พระราชาทรงพระสรวล

เจ้าหญิงทรงหน้าแดง

“พระบิดา คงต้องบอกว่าลูกประหลาดใจ ลูกไม่ใช่บุตรคนแรก และยังเป็นสตรี ลูกไม่มีความรู้เรื่องการเมือง และไม่คิดสนใจมัน หรือการปกครองอาณาจักร ลูกไม่มีเป้าหมายทางการเมือง ลูกไม่เข้าใจว่าทำไมพระองค์จึงทรงเลือกลูก”

“เป็นเพราะเหตุผลทั้งหมดนั่นแหละ” พระราชาตรัสบอก ด้วยพระพักตร์เคร่งขรึม “เป็นเพราะเจ้าไม่มีความปรารถนาในราชบัลลังก์ เจ้าไม่ต้องการเป็นกษัตริย์ และเจ้าไม่รู้เรื่องการเมือง”

พระราชาทรงสูดหายใจเข้าลึก

“แต่เจ้ารู้จักธรรมชาติของมนุษย์ เจ้าเฉลียวฉลาด เจ้าได้สิ่งนี้ไปจากพ่อ เจ้ามีไหวพริบของแม่เจ้า และมีทักษะเรื่องผู้คนจากพ่อ เจ้ารู้ว่าควรจะตัดสินผู้คนอย่างไร เจ้ามองคนเป็น และนั่นเป็นสิ่งที่ราชาต้องมี การรู้ธรรมชาติของคนอื่น ไม่มีสิ่งใดอีกแล้วที่เจ้าต้องการ ที่เหลือคือชั้นเชิง รู้จักคนของเจ้า เข้าใจพวกเขา ไว้ใจสัญชาตญาณของเจ้า และทำดีกับพวกเขา มีเพียงเท่านี้แหละ”

“แต่แน่นอนว่าการปกครองอาณาจักรต้องมีมากกว่านั้น” เจ้าหญิงตรัส

“ไม่เชิงหรอก” พระราชาตรัส “มันต่อยอดไปจากตรงนั้น การตัดสินใจเกิดขึ้นจากคุณสมบัติทั้งหมดนั่น”

“แต่พระบิดา พระองค์ทรงลืมไปว่า ข้อที่หนึ่งลูกไม่ปรารถนาในราชบัลลังก์ และข้อที่สองพระองค์ยังทรงพระชนม์ชีพ นี่เป็นธรรมเนียมไร้สาระที่เชื่อมโยงกับการแต่งงานของบุตรคนโต ทำไมต้องใส่ใจด้วย? ลูกไม่อยากจะพูดถึง หรือคิดถึงด้วยซ้ำ ลูกหวังว่าจะไม่มีวันที่พระบิดาจะทรงสิ้นพระชนม์ เรื่องนี้มันช่างไม่สัมพันธ์กันเลย”

พระราชาทรงกระแอม พระพักตร์เคร่งเครียด

“พ่อได้คุยกับอาร์กอน เขาเห็นอนาคตที่มืดมิดของพ่อ พ่อจึงรู้สึกว่าพ่อต้องเตรียมพร้อม” พระราชาตรัสบอก

เจ้าหญิงเกว็นทรงรู้สึกพระนาภีบิดเขม็ง

“อาร์กอนนั้นโง่เขลา เป็นเพียงผู้วิเศษ ครึ่งหนึ่งของสิ่งที่เขาบอกยังไม่เกิดขึ้นเลย อย่าสนใจพระทัยเขาเลยเพคะ อย่ายอมรับคำทำนายโง่เง่านี่ พระองค์ทรงสบายดี และจะทรงอยู่ตลอดไป”

พระราชาส่ายพระพักตร์ช้า ๆ เจ้าหญิงทรงเห็นความเศร้าบนพระพักตร์ และรู้สึกว่าพระนาภียิ่งบิดเขม็งมากขึ้น

“เกว็นโดลิน ลูกพ่อ พ่อรักเจ้า พ่ออยากให้เจ้าเตรียมพร้อม อยากให้เจ้าเป็นผู้ปกครองคนต่อไปของอาณาจักรวงแหวน พ่อหมายความอย่างที่พูด และนี่ไม่ใช่การขอร้อง แต่เป็นคำสั่ง”

ราชาแม็คกิลทอดพระเนตรมองเจ้าหญิงอย่างจริงจัง พระเนตรเศร้าจนเจ้าหญิงรู้สึกกลัว พระนางไม่เคยพระบิดามีสีพระพักตร์เช่นนี้มาก่อน

เจ้าหญิงทรงรู้สึกพระเนตรรื้น และเอื้อมพระหัตถ์ขึ้นเช็ดน้ำตา

“พ่อเสียใจที่ทำให้เจ้าขุ่นมัว” พระราชาตรัส

“ถ้าเช่นนั้นก็ทรงหยุดพูดเรื่องนี้เถิดเพคะ” เจ้าหญิงตรัสพลางกรรแสง “ลูกไม่อยากให้พระบิดาสิ้นพระชนม์”

“พ่อขอโทษ แต่พ่อทำไม่ได้ พ่ออยากให้เจ้าตอบพ่อ”

“พระบิดา ลูกไม่อยากจะล่วงเกินพระองค์”

“ถ้าเช่นนั้นก็จงตอบรับ”

“แต่ลูกจะปกครองได้อย่างไร?” เจ้าหญิงทรงอ้อนวอน

“มันไม่ยากอย่างที่เจ้าคิดหรอก เจ้าจะแวดล้อมไปด้วยที่ปรึกษา กฎข้อแรกคืออย่าไว้ใจพวกเขา จงไว้ใจตัวเอง เจ้าทำได้ การขาดความรู้ และความไร้เดียงสาของเจ้า คือสิ่งที่จะทำให้เจ้ายิ่งใหญ่ เจ้าจะตัดสินใจได้อย่างถูกต้อง สัญญากับพ่อ” พระราชาทรงยืนยัน

เจ้าหญิงสบพระเนตร และเห็นว่าเรื่องนี้สำคัญต่อพระบิดาเพียงใด พระนางอยากจะให้เรื่องนี้จบลง และไม่มีสาเหตุอื่นนอกจากทรงต้องการเอาใจพระบิดาและทำให้พระองค์ทรงพระสำราญขึ้น

“เพคะ ลูกสัญญา” เจ้าหญิงรีบตรัส “ทรงรู้สึกดีขึ้นไหมเพคะ?”

พระราชาทรงเอนหลัง เจ้าหญิงทรงเห็นว่าพระองค์ทรงโล่งใจอย่างยิ่ง

“ดี” พระราชาตรัส “ขอบใจลูก”

“ดีเพคะ ถ้าอย่างนั้นเราคุยกันเรื่องอื่นไหมเพคะ? เรื่องที่อาจจะเกิดขึ้นจริง ๆ?” เจ้าหญิงตรัสถาม

พระราชาทรงเอนพระวรกายและทรงพระสรวล ดูพระองค์ทรงปลอดโปร่งขึ้นอีกเป็นล้านปอนด์

“นี่แหละที่ทำให้พ่อรักเจ้า” พระราชาตรัส “เจ้ามักจะมีความสุขเสมอ ทำให้พ่อหัวเราะได้เสมอ”

ราชาแม็คกิลทรงมองสำรวจพระธิดา ซึ่งเจ้าหญิงรู้ว่าทรงกำลังมองหาบางอย่าง

“เจ้าดูมีความสุขผิดปกติ” พระราชาตรัส “มีเด็กหนุ่มเกี่ยวข้องด้วยไหม?”

เจ้าหญิงเกว็นหน้าแดง ประทับยืนขึ้นและเสด็จไปยังหน้าต่าง หันหนีพระบิดา

“ลูกเสียใจ พระบิดา แต่เรื่องนี้เป็นกิจส่วนตัว”

“มันจะไม่เป็นส่วนตัวหากเจ้าจะปกครองอาณาจักร” พระราชาตรัส “แต่พ่อก็ไม่อยากจะสอดรู้ แม่ของเจ้าอยากจะพบเจ้า และพ่อคิดว่านางคงจะไม่โอนอ่อนนักหรอก พ่อจะปล่อยเรื่องนี้ไป แต่เจ้าเตรียมตัวไว้เถอะ”

พระนาภีเขม็งเกลียวขึ้นอีก เมื่อทรงหันมองออกไปนอกหน้าต่าง เจ้าหญิงทรงเกลียดที่นี่ พระนาง

ทรงปรารถนาจะไปที่ไหนก็ได้นอกจากที่นี่ จะหมู่บ้านธรรมดา หรือฟาร์มธรรมดา ได้ใช้ชีวิตสามัญกับธอร์ ห่างไกลจากทุกสิ่งที่นี่ ไกลจากอำนาจที่พยายามจะควบคุมพระนาง

เจ้าหญิงทรงรู้สึกถึงพระหัตถ์อ่อนโยนบนไหล่ เมื่อหันไปก็ทรงเห็นพระบิดาประทับอยู่เคียงข้าง พลางแย้มพระโอษฐ์ให้

“แม่ของเจ้าอาจจะดุดัน แต่ไม่ว่านางจะตัดสินใจอย่างไร ขอให้เจ้ารู้ไว้ว่าพ่อจะอยู่เคียงข้างเจ้า เรื่องของความรัก คนเราควรมีสิทธิ์เลือกได้อย่างอิสระ”

เจ้าหญิงเกว็นทรงสวมกอดพระบิดา ในชั่วขณะนั้น พระนางทรงรู้สึกรักพระองค์ยิ่งกว่าสิ่งอื่นใด ทรงผลักความคิดเรื่องลางบอกเหตุเกี่ยวกับงูนั่นไปจากใจ ภาวนาด้วยทุกสิ่งที่ทรงมี ขออย่าให้เป็นพระบิดาของพระองค์

*

เจ้าหญิงเกว็นทรงเลี้ยวไปตามทางเดิน ผ่านแถวกระจกหน้าต่างสี มุ่งหน้าไปยังห้องประทับของ

พระมารดา ทรงไม่พอใจที่พระมารดาเรียกให้เข้าเฝ้า ไม่ชอบใจวิธีการควบคุมของพระนาง ในหลายเรื่อง

พระมารดาทรงเป็นผู้ปกครองอาณาจักรที่แท้จริง พระนางแข็งแกร่งกว่าพระบิดาในหลาย ๆ เรื่อง ทรงหนักแน่นและไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ ซึ่งแน่นอนว่าทั้งอาณาจักรไม่เคยรู้ พระบิดาทรงสวมบทบาททำหน้าเคร่ง ให้ดูทรงภูมิ

แต่เมื่อทรงกลับมายังปราสาท หลังจากที่ประตูปิดลง คนที่พระองค์ทรงหันไปขอคำปรึกษาคือ

พระมารดา พระนางคือผู้ที่รอบรู้กว่า เย็นชากว่า คิดไตร่ตรองมากกว่า แข็งแกร่งกว่า และกล้าหาญกว่า

พระนางคือหินผา และทรงปกครองครอบครัวใหญ่ด้วยพระหัตถ์เหล็ก เมื่อทรงต้องการสิ่งใด โดยเฉพาะเมื่อทรงเชื่อว่าดีสำหรับครอบครัวแล้ว พระนางจะทำให้มันเกิดขึ้นให้ได้

และตอนนี้พระหทัยอันแข็งแกร่งของพระนางกำลังมุ่งมาที่เจ้าหญิง ซึ่งทรงบอกตัวเองให้เข้มแข็งพร้อมที่จะเผชิญหน้า ทรงรู้สึกว่าจะต้องมีเรื่องเกี่ยวกับชีวิตรักของพระองค์ และทรงกลัวว่าจะมีใครพบเห็นว่าทรงอยู่กับธอร์ เจ้าหญิงทรงตัดสินพระทัยว่าจะไม่ยอมแพ้ ไม่ว่าจะต้องทำเช่นไร หากจะต้องไปจากที่นี่ ก็จะทรงทำ พระมารดาอาจจะทรงขังเจ้าหญิงไว้ในคุกใต้ดินสำหรับทุกสิ่งที่ทรงใส่ใจ

เมื่อเจ้าหญิงเกว็นเสด็จมาถึงห้องประทับของพระมารดา มหาดเล็กก็เปิดประตูไม้โอ๊คบานใหญ่ถวาย แล้วถอยห่างไป เมื่อเสด็จผ่านเข้าไป จากนั้นจึงปิดประตูตามหลัง

ห้องประทับของพระมารดาเล็กกว่าของพระบิดามาก เป็นส่วนตัวกว่า มีพรมผืนใหญ่และชุดชาขนาดเล็ก และเกมกระดานตั้งอยู่ข้างเตาผิง มีพระเก้าอี้บุกำมะหยี่สีเหลืองหลายตัววางอยู่ใกล้ ๆ พระมารดาประทับอยู่บนเก้าอี้ตัวหนึ่ง ทรงหันหลังให้ แม้ว่าจะทรงรออยู่ พระนางประทับอยู่หน้าเตาผิง และทรงจิบชา แล้วขยับหมากตัวหนึ่งบนเกมกระดาน ด้านหลังพระนางมีนางสนองพระโอษฐ์สองคน คนหนึ่งกำลังแต่งพระเกศา ขณะที่อีกคนกำลังดึงสายรัดฉลองพระองค์ด้านหลัง

“เข้ามาสิ” พระนางตรัสขึ้นด้วยน้ำเสียงเข้มงวด

เจ้าหญิงเกว็นไม่ทรงชอบเลยเวลาที่พระมารดาทำเช่นนี้ ทรงสนทนาต่อหน้านางสนองพระโอษฐ์

เจ้าหญิงอยากให้พระนางสั่งให้พวกนางออกไป เช่นที่พระบิดาทำ เมื่อต้องการสนทนากัน อย่างน้อยก็เพื่อความเป็นส่วนตัวและความเหมาะสม แต่พระนางก็ไม่เคยทำ เจ้าหญิงเกว็นทรงสรุปว่าเป็นการแสดงอำนาจ ให้

สาวใช้อยู่ใกล้ ๆ คอยฟัง เพื่อที่จะให้เจ้าหญิงระวังตัว

เจ้าหญิงเกว็นไม่มีทางเลือก นอกจากเสด็จข้ามห้องไปประทับนั่งลงบนเก้าอี้ตัวหนึ่ง ตรงข้าม

พระมารดา และอยู่ใกล้เตาผิงมากเกินไป นี่ก็เป็นการใช้อำนาจอีกอย่างของพระนาง ทำให้คนที่พบอบอุ่นเกินไป และเผลอไผลเพราะความร้อน

พระราชินีไม่ทรงเงยหน้าขึ้น ยังคงทอดพระเนตรเกมกระดาน ผลักหมากงาช้างตัวหนึ่งเข้าไปในวงกตที่ซับซ้อน

“ตาเจ้าแล้ว” พระมารดาตรัสบอก

เจ้าหญิงทอดพระเนตรกระดานเกม แล้วต้องทรงประหลาดพระทัยที่เกมนี้ยังอยู่ ทรงจำได้ว่าใช้หมากสีน้ำตาล แต่ไม่ได้เล่นเกมนี้กับพระมารดามาหลายอาทิตย์แล้ว พระนางทรงเชี่ยวชาญหมากรุก แต่เจ้าหญิงทรงเก่งกว่า ราชินีไม่โปรดการพ่ายแพ้ เห็นได้ชัดว่าทรงวิเคราะห์เกมนี้มาระยะหนึ่งแล้ว ทรงต้องการเดินหมากที่สมบูรณ์ ตอนนี้เจ้าหญิงเกว็นประทับอยู่ที่นี่แล้ว และถูกสั่งให้เดินหมาก

เจ้าหญิงไม่จำเป็นต้องศึกษากระดาน ไม่เหมือนพระมารดา เพียงแค่เหลือบมองก็ทรงมองเห็นการเดินหมากที่ถูกต้องในหัว เจ้าหญิงเอื้อมไปหยิบหมากสีน้ำตาลตัวหนึ่งเคลื่อนไปด้านข้าง สุดอีกด้านของกระดาน ทำให้พระมารดาเหลือการเดินหมากอีกเพียงครั้งเดียวก็จะพ่ายแพ้

ราชินีทอดพระเนตรมองกระดาน สีหน้าเรียบเฉย มีเพียงพระขนงขยับไหว ซึ่งเจ้าหญิงรู้ว่านั่นแสดงถึงความตกใจของพระนาง เจ้าหญิงเกว็นทรงฉลาดกว่า แต่พระมารดาไม่เคยยอมรับ

ราชินีทรงกระแอม พลางศึกษากระดาน ยังคงไม่ทอดพระเนตรมองเจ้าหญิง

“ข้ารู้เรื่องนอกลู่นอกทางของเจ้ากับเจ้าหนุ่มสามัญชนนั่น” ทรงตรัสอย่างเย้ยหยัน “เจ้าท้าทายข้า” พระมารดาเงยพระพักตร์ขึ้นมอง “ทำไม?”

เจ้าหญิงเกว็นทรงสูดหายใจเข้าลึก รู้สึกพระนาภีบิดเขม็ง พยายามคิดหาคำตอบที่ดีที่สุด ทรงไม่อยากยอมแพ้ ไม่ใช่ในครั้งนี้

“เรื่องส่วนตัวของข้า ไม่ใช่ธุระของพระมารดา” เจ้าหญิงเกว็นตรัส

“อย่างนั้นหรือ? มันเป็นธุระของข้าอย่างยิ่งเลยล่ะ เรื่องส่วนตัวของเจ้ากระทบกับการเป็นกษัตริย์ ชะตากรรมของครอบครัว และอาณาจักรวงแหวน เรื่องส่วนตัวของเจ้าเป็นการเมือง มากเท่าที่เจ้าอยากจะลืม แต่เจ้าไม่ใช่สามัญชน ไม่มีอะไรเป็นส่วนตัวในโลกของเจ้า และไม่มีสิ่งใดเป็นส่วนตัวสำหรับข้า”

พระมารดาตรัสด้วยน้ำเสียงเย็นชาและเฉียบขาด เจ้าหญิงทรงกริ้วทุกขณะของการเฝ้าครั้งนี้ ไม่มีสิ่งใดที่จะทรงทำได้ นอกจากประทับนั่งเฉยแล้วรอให้พระนางพูดจบ ทรงรู้สึกเหมือนติดกับ

ในที่สุด พระมารดาก็ทรงกระแอมขึ้นอีก

“เพราะเจ้าปฏิเสธที่จะเชื่อฟังข้า ดังนั้นข้าจะตัดสินใจแทนเจ้าเอง เจ้าจะต้องไม่พบกับเด็กหนุ่มคนนั้นอีก หากเจ้าทำ ข้าจะย้ายมันออกไปจากค่ายทหารยุวชน ไปจากปราสาท และกลับไปยังหมู่บ้านของมัน แล้วข้าจะสั่งให้จองจำมันพร้อมด้วยครอบครัวทั้งหมด มันจะถูกเนรเทศไปอย่างอัปยศ และเจ้าจะไมได้พบมันอีก”

ราชินีทอดพระเนตรมองเจ้าหญิง ริมพระโอษฐ์ล่างสั่นระริกด้วยความกริ้ว

“เจ้าเข้าใจที่แม่พูดไหม?”

เจ้าหญิงเกว็นทรงหายใจแรง เป็นครั้งแรกที่ทรงเข้าใจว่าพระมารดาทรงร้ายกาจเพียงใด และชิงชังเกินกว่าจะตรัสออกมาได้ เจ้าหญิงทรงเห็นสายตากระวนกระวายของนางสนองพระโอษฐ์ มันเป็นเรื่องน่าอาย

ก่อนที่จะทรงตอบอะไร ราชินีก็ตรัสต่อไป

“ยิ่งไปกว่านั้น เพื่อเป็นการป้องกันพฤติกรรมสะเพร่าของเจ้า ข้าได้ดำเนินการจัดหาคู่ครองที่เหมาะสมให้เจ้าแล้ว เจ้าจะต้องแต่งงานกับอัลทัน ในวันที่หนึ่งของเดือนหน้า เจ้าจะเริ่มเตรียมการแต่งงานตอนนี้เลยก็ได้ เตรียมพร้อมสำหรับชีวิตของสตรีที่แต่งงานแล้ว เท่านั้นล่ะ” พระมารดาตรัสอย่างเฉยเมย แล้วทรงหันกลับไปสนใจกระดานเกมตรงหน้า เหมือนกับเพิ่งตรัสเรื่องธรรมดาสามัญที่สุดออกมา

เจ้าหญิงเกว็นทรงกริ้วและรุ่มร้อนอยู่ภายใน จนอยากจะกรีดร้องออกมา

“ท่านกล้าดียังไง” เจ้าหญิงตรัส โทสะปะทุขึ้น “ท่านคิดว่าข้าเป็นหุ่น ให้ท่านเชิดเล่นอย่างนั้นหรือ? ท่านคิดจริง ๆ หรือว่าข้าจะยอมแต่งงานกับใครก็ตามที่ท่านบอกให้ทำ?”

“ข้าไม่ได้คิด” พระมารดาตรัสตอบ “ข้ารู้ เจ้าเป็นธิดาของข้า เจ้าต้องเชื่อฟังข้า และเจ้าจะต้องแต่งงานกับคนที่ข้าบอกให้แต่ง”

“ไม่ ข้าไม่ทำ!” เจ้าหญิงทรงตะโกนบอก “และท่านก็บังคับข้าไม่ได้! พระบิดาทรงบอกว่าท่านบังคับข้าไม่ได้!”

“การเลือกคู่ครองให้ยังคงเป็นสิทธิ์ของพ่อแม่ทุกคนในอาณาจักรนี้ และยังเป็นสิทธิ์ของราชาและราชินีด้วย พระบิดาของเจ้าว่าอย่างนั้น แต่เจ้าก็รู้ดีพอกับข้าว่าจะทรงยอมตามที่ข้าปรารถนาเสมอ ข้ามีวิธีของข้า”

พระมารดาของเจ้าหญิงทรงจ้องมอง

“แล้วเจ้าจะได้เห็น ว่าเจ้าจะต้องทำตามที่ข้าบอก การแต่งงานของเจ้าจะต้องเกิดขึ้น ไม่มีอะไรมาหยุดได้ เตรียมตัวไว้เถอะ”

“ข้าไม่แต่ง” เจ้าหญิงตรัสโต้ “ไม่มีทาง และถ้าท่านพูดเรื่องนี้กับข้าอีก ข้าจะไม่มีวันพูดกับท่านอีก”

ราชินีเงยพระพักตร์ขึ้นมองแล้วแย้มสรวล เป็นรอยยิ้มที่เย็นชาาและน่าเกลียด

“ข้าไม่สนใจว่าเจ้าจะพูดกับข้าหรือไม่ ข้าเป็นแม่ ไม่ใช่เพื่อนของเจ้า และข้าเป็นราชินี นี่อาจจะเป็นการพบกันครั้งสุดท้ายของเรา ก็ไม่สำคัญอะไร ในที่สุดแล้วเจ้าจะต้องทำตามที่ข้าบอก และข้าจะเฝ้าดูอยู่ห่าง ๆ ตอนที่เจ้าใช้ชีวิตที่ข้าวางแผนไว้ให้”

พระนางทรงหันกลับไปสนใจเกมต่อ

“เจ้าไปได้แล้ว” ตรัสพลางโบกพระหัตถ์ ราวกับเจ้าหญิงเกว็นเป็นสาวใช้

เจ้าหญิงเดือดดาลด้วยโทสะ จนทนต่อไปไม่ได้ ทรงก้าวเข้าไปสามก้าว คว้าเกมกระดานของ

พระมารดา แล้วขว้างมันด้วยสองมือ เหวี่ยงหมากงาช้างและคว่ำโต๊ะงาช้างตัวใหญ่ล้มลงแตกกระจายเป็น

เสี่ยง ๆ

ราชินีทรงผงะถอยหลังอย่างตกพระทัย

“ข้าเกลียดท่าน” เจ้าหญิงตรัสอย่างไม่พอพระทัย

หลังจากนั้นทรงหันหลัง พระพักตร์แดงก่ำ เดินกระทืบเท้าออกไปจากห้อง ปัดมือนางสนองพระโอษฐ์ ทรงตั้งใจที่จะเดินไปตามทางที่ทรงปรารถนา และจะไม่พบหน้าพระมารดาอีกเลย

Купите 3 книги одновременно и выберите четвёртую в подарок!

Чтобы воспользоваться акцией, добавьте нужные книги в корзину. Сделать это можно на странице каждой книги, либо в общем списке:

  1. Нажмите на многоточие
    рядом с книгой
  2. Выберите пункт
    «Добавить в корзину»