Бесплатно

เส้นทางแห่งวีรบุรุษ

Текст
0
Отзывы
iOSAndroidWindows Phone
Куда отправить ссылку на приложение?
Не закрывайте это окно, пока не введёте код в мобильном устройстве
ПовторитьСсылка отправлена
Отметить прочитанной
Шрифт:Меньше АаБольше Аа

เจ้าจะต้องฝึกฝนเพื่อเสริมสร้างความกล้าหาญและจิตใจ คุณสมบัติของอัศวินไม่ใช่การอยู่เฉย ๆ แต่ต้องลงมือทำ เจ้าต้องฝึกฝน พัฒนาตัวเอง ทุกขณะในทุก ๆ วัน”

“ตลอดหลายจันทรานี้ เจ้าจะเรียนรู้เกี่ยวกับอาวุธทุกชนิด ทักษะทุกด้าน แต่จงจำไว้ ยังมีการต่อสู้อีกมิติหนึ่ง มิติของผู้วิเศษ ไปหาอาร์กอน เรียนรู้ที่จะพัฒนาพลังที่ซ่อนเร้นอยู่ของเจ้า ข้ารู้ว่าเจ้ามีมัน เจ้ามีศักยภาพที่ยิ่งใหญ่ ไม่มีอะไรต้องอาย เข้าใจที่ข้าบอกไหม?”

“ครับ ใต้เท้า” ธอร์ตอบ ท่วมท้นด้วยความรู้สึกขอบคุณในความฉลาดและความเข้าใจของเขา

“ข้าเลือกเจ้าให้มาอยู่ในความดูแลเพราะมีเหตุผล เจ้าไม่เหมือนคนอื่น เจ้ามีชะตาที่ยิ่งใหญ่ อาจจะยิ่งใหญ่กว่าข้าด้วย แต่มันยังไม่สมบูรณ์ เจ้าจะต้องไม่ปล่อยให้มันสูญเปล่า เจ้าต้องฝึกฝน การจะเป็นนักรบที่ยิ่งใหญ่ เจ้าไม่เพียงแต่ต้องกล้าหาญและมีฝีมือ แต่เจ้ายังต้องมีจิตวิญญาณของนักรบ และระลึกไว้ในหัวใจและสมองของเจ้าเสมอ เจ้าต้องยินดีสละชีวิตเพื่อผู้อื่น อัศวินที่ยิ่งใหญ่ไม่ได้ตามหาความมั่งคั่งหรือเกียรติยศหรือชื่อเสียงหรือความรุ่งโรจน์ อัศวินที่ยิ่งใหญ่จะทำภารกิจที่ยากที่สุด ภารกิจที่จะทำให้ตัวเองเก่งขึ้น ทุก ๆ วันเจ้าจะต้องอุตสาหะเพื่อให้เก่งขึ้น ไม่ใช่แค่เก่งกว่าคนอื่น แต่จะต้องเก่งกว่าตัวเอง เจ้าจะต้องทำภารกิจเพื่อช่วยคนที่ด้อยกว่า เจ้าจะต้องปกป้องผู้ที่ป้องกันตัวเองไม่ได้ มันไม่ใช่ภารกิจเพื่อความสนุกสนาน แต่เป็นภารกิจของวีรบุรุษ”

ธอร์หัวหมุนขณะพยายามจดจำทุกสิ่ง ทบทวนคำพูดของอีเร็คอย่างระวัง เขาเต็มตื้นด้วยความรู้สึกขอบคุณที่มีต่ออีเร็ค และไม่รู้เลยว่าจะตอบแทนได้อย่างไร เขารู้ว่าต้องใช้เวลาหลายจันทราที่คำพูดเหล่านี้จะซึมซาบเข้าไปได้ทั้งหมด

พวกเขาไปถึงประตูของทางแยกแรก อัศวินกองรบเงินหลายคนออกมาทักทายอีเร็ค พวกเขาขี่ม้ามาขนาบข้าง มีรอยยิ้มกว้างบนใบหน้า และเมื่ออีเร็คลงจากหลังม้า พวกนั้นก็ตบหลังเขาแรง ๆ อย่างเพื่อนเก่า

ธอร์กระโดดลงจากหลังม้า จับสายบังเหียนของลานนิน จูงมันไปให้ผู้ดูแลที่ประตู ให้อาหารและนวดเฟ้น ธอร์ยืนอยู่ตรงนั้นขณะที่อีเร็คหันกลับมามองเขาเป็นครั้งสุดท้าย

การบอกลาครั้งสุดท้ายของพวกเขา มีหลายสิ่งเหลือเกินที่ธอร์อยากบอก เขาอยากจะขอบคุณ แต่ก็อยากจะเล่าทุกอย่างให้อีเร็คฟัง ทั้งเรื่องลางบอกเหตุ ความฝันของเขา และความหวาดกลัวแทนพระราชา เขาคิดว่าอีเร็คอาจจะเข้าใจ

แต่ก็ไม่อาจพูดออกไป อีเร็คแวดล้อมด้วยเหล่าอัศวิน และธอร์กลัวว่าอีเร็คและคนอื่น ๆ จะคิดว่าเขาบ้า ดังนั้นเขาจึงได้แต่ยืนนิ่ง พูดไม่ออก ขณะที่อีเร็คเอื้อมมือมาตบบ่าเขาเป็นครั้งสุดท้าย

“ปกป้องพระราชา” อีเร็คบอกอย่างหนักแน่น

คำพูดนั้นทำให้ธอร์เย็นวาบไปตามสันหลัง ราวกับอีเร็คอ่านใจเขาออก

อีเร็คหันกลับไป และเดินผ่านประตูไปพร้อมกับอัศวินคนอื่น ๆ และเมื่อพวกเขาผ่านเข้าไปแล้ว ลูกกรงเหล็กแหลมก็ค่อย ๆ เคลื่อนลงมาตามหลังพวกเขา

อีเร็คจากไปแล้ว ธอร์รู้สึกวูบโหวงในท้อง มันอาจจะเป็นอีกหนึ่งปีเต็มที่เขาจะได้พบกับอีเร็คอีก

ธอร์ขึ้นม้า กระชับสายบังเหียนและเตะอย่างแรง ยามบ่ายมาถึงแล้วและเขาจะต้องขี่ม้าไปอีกครั้งวันเต็ม ๆ เพื่อไปให้ทันงานเลี้ยง เขารู้สึกว่าคำพูดสุดท้ายของอีเร็คดังก้องอยู่ในหัวเหมือนกับมนตรา

ปกป้องพระราชา

ปกป้องพระราชา

บทที่ 28

ธอร์เร่งขี่ม้าไปในความมืด พุ่งทะยานผ่านประตูสุดท้ายเข้าสู่เขตราชสำนัก แทบจะไม่ได้ชะลอม้าเลยตอนที่กระโดดลงไป หอบหายใจอย่างแรง ขณะส่งสายบังเหียนให้แก่คนดูแล เขาขี่ม้ามาตลอดวัน ดวงอาทิตย์ตกลับไปหลายชั่วโมงแล้ว เขาบอกได้ทันทีจากแสงคบไฟด้านใน และเสียงดนตรีเบื้องหลังประตูว่างานเลี้ยงได้เริ่มขึ้นเต็มที่แล้ว เขาอยากจะเตะตัวเองที่ออกไปนานขนาดนี้ และได้แต่ภาวนาว่ายังไม่สายเกินไป

เขาวิ่งไปหามหาดเล็กที่อยู่ใกล้ที่สุด

“ข้างในเรียบร้อยดีไหม?” เขาถามอย่างเร่งร้อน เขาต้องรู้ว่าพระราชายังปลอดภัยดี แม้จะไม่อาจถามออกไปตรง ๆ ได้ ว่าพระองค์ทรงถูกวางยาพิษหรือไม่

มหาดเล็กมองเขาอย่างประหลาดใจ

“แล้วทำไมถึงจะไม่เรียบร้อยด้วยล่ะ? ทุกอย่างเรียบร้อยดี ยกเว้นที่เจ้ามาสาย พวกทหารยุวชนควรจะมาตรงเวลาเสมอ และเสื้อผ้าของเจ้าก็สกปรก เจ้าจะดูแย่ในในสายตาเพื่อน ๆ ล้างมือเสีย แล้วรีบเข้าไป”

ธอร์รีบเดินผ่านประตูไป เหงื่อไหลชุ่ม จุ่มมือลงไปในอ่างหินเล็ก ๆ ที่มีน้ำอยู่เต็ม วักน้ำใส่ใบหน้า แล้วลูบผมยาวของเขา เขายังไม่ได้หยุดเลยตั้งแต่เช้าตรู่ ตัวเปื้อนฝุ่นจากถนน และรู้สึกเหมือนผ่านสิบวันไปภายในวันเดียว ธอร์สูดหายใจเข้าลึก พยายามสงบใจและทำตัวปกติ ก่อนจะรีบเดินไปตามทางเดิน มุ่งหน้าไปยังห้องจัดเลี้ยง

เมื่อเขาก้าวเข้าไปภายใน ผ่านประตูโค้งบ้านใหญ่ มันช่างเหมือนกับในความฝันของเขา ตรงหน้าเขาคือโต๊ะอาหารขนาดใหญ่สองตัว ยาวอย่างน้อยหนึ่งร้อยฟุต ที่อีกฟากพระราชาทรงประทับเป็นประธานที่โต๊ะของพระองค์ ล้อมรอบด้วยข้าราชบริพาร เสียงดังในห้องโถมใส่ธอร์เหมือนเป็นสิ่งมีชีวิต ทั้งห้องแออัดไปด้วยผู้คน ไม่ใช่เพียงข้าราชบริพาร ทหารกองรบเงินและกองทหารยุวชนที่นั่งอยู่ประจำโต๊ะเท่านั้น แต่ยังมีคนอื่น ๆ อีกนับร้อย วงดนตรีเร่ นักระบำ ตัวตลก สตรีจากร้านนางโลมอีกหลายสิบคน....แล้วยังมีคนรับใช้ต่าง ๆ ทหารยาม สุนัขวิ่งไปมา มันช่างโกลาหล

ผู้ชายดื่มไวน์และเบียร์จากถ้วยใบใหญ่ หลายคนยืนอยู่ บ้างก็ร้องเพลงคนขี้เมา บ้างก็โอบไหล่กัน บ้างก็ชนแก้ว มีอาหารมากมายกองอยู่บนโต๊ะ ทั้งหมูป่า กวาง และสัตว์อื่นที่ล่ามาได้เสียบไม้ย่างอยู่บนเตาไฟ กว่าครึ่งห้องกำลังสวาปามอาหาร ขณะที่อีกครึ่งเดินไปมา ธอร์ดูความโกลาหลในห้องนี้ การได้เห็นว่าพวกเขาเมามายกันแค่ไหน ทำให้เขารู้ว่าถ้าเขามาถึงเร็วกว่านี้ ตอนงานเริ่ม มันคงจะเป็นระเบียบกว่านี้ ในยามดึกแบบนี้ ดูเหมือนจะยิ่งมีคนเมาเลอะเทอะ

ปฏิกิริยาแรกของธอร์นอกจากตะลึงกับภาพที่เห็น เขาโล่งใจที่เห็นพระราชายังทรงมีพระชนม์ชีพ เขาถอนหายใจอย่างโล่งอก พระองค์ยังสบายดี ธอร์สงสัยขึ้นมาอีกว่าลางบอกเหตุนั้นอาจจะไม่มีความหมายอะไร ถ้าความฝันของเขาไม่มีความหมายอะไร ถ้าเขาเพียงแต่คิดมากเกินไปกับเรื่องที่จินตนาการไปเอง คิดไกลไปใหญ่โตกว่าความเป็นจริง แต่เขาก็ยังไม่อาจสลัดความคิดนี้ไปได้ เขายังรู้สึกว่าเป็นเรื่องเร่งด่วนที่จะต้องเตือนพระราชา

ปกป้องพระราชา

ธอร์เดินฝ่าฝูงชน พยายามเข้าไปหาพระราชา แต่ทำได้ช้า เนื่องจากผู้คนต่างเมามาย เอะอะโวยวาย เบียดเสียดกันแบบไหล่ชนไหล่ และพระราชาแม็คกิลประทับอยู่ห่างไปหลายร้อยฟุต

ธอร์พยายามฝ่าไปได้ครึ่งทาง แล้วต้องหยุดเมื่อเห็นเจ้าหญิงเกว็นโดลิน นางประทับอยู่ที่โต๊ะเล็กตัวหนึ่ง ทางด้านข้าง แวดล้อมไปด้วยนางสนองพระโอษฐ์ ดูเศร้าสร้อยไม่เหมือนเช่นเคย พระกระยาหารและเครื่องดื่มไม่ถูกแตะต้อง และทรงนั่งแยกห่างจากราชนิกูลองค์อื่น ๆ ธอร์สงสัยว่ามีอะไรผิดปกติ

ธอร์แยกจากฝูงชนและรีบไปหาเจ้าหญิง

เจ้าหญิงทอดพระเนตรเห็นเขากำลังเข้าไป แต่แทนที่จะแย้มสรวล เหมือนเช่นเคย พระพักตร์กลับมึนตึง เป็นครั้งแรกที่ธอร์เห็นโทสะในแววพระเนตร

เจ้าหญิงเกว็นเลื่อนเก้าอี้ และลุกขึ้น หันหลังให้เขาและเสด็จจากไป

ธอร์รู้สึกเหมือนโดนมีดแทงเข้าที่หัวใจ เขาไม่เข้าใจท่าทีของนาง เขาทำอะไรผิดไปอย่างนั้นหรือ?

เขารีบวิ่งอ้อมโต๊ะ เข้าไปหา แล้วคว้าข้อพระกรไว้อย่างนุ่มนวล

แต่เจ้าหญิงทรงทำให้เขาประหลาดใจด้วยการสะบัดออกอย่างแรง หันมาทำพระพักตร์บึ้งใส่เขา

“อย่ามาแตะตัวข้า!” นางกรีดเสียง

ธอร์ถอยหลัง ตกใจกับท่าทีของเจ้าหญิง นี่ใช่เจ้าหญิงเกว็นโดลินองค์เดิมที่เขารู้จักหรือไม่?

“ข้าขอโทษ” เขาทูล “ข้าไม่ได้มีเจตนาร้าย หรือดูหมิ่น ข้าเพียงต้องการพูดด้วย”

“ข้าไม่มีอะไรจะพูดกับเจ้า” ทรงตรัสอย่างเดือดดาล พระเนตรวาวด้วยโทสะ

ธอร์แทบจะหยุดหายใจ เขาไม่รู้เลยว่าเขาทำอะไรผิด

“เจ้าหญิง โปรดบอกข้า ข้าทำอะไรให้ไม่พอพระทัยหรือ? ไม่ว่ามันคืออะไร ข้าขอโทษ”

“สิ่งที่เจ้าทำมันเกินจะแก้ไขแล้ว ไม่มีคำขอโทษใดชดเชยได้ มันคือตัวเจ้าต่างหาก”

เจ้าหญิงเสด็จจากไปอีก ใจหนึ่งของธอร์คิดว่าเขาควรปล่อยนางไป และอีกใจไม่อาจทนเดินจากไปได้ หลังจากสิ่งที่ได้มีร่วมกัน เขาต้องรู้ ...ต้องรู้สาเหตุที่ทำให้ทรงโกรธเขามากขนาดนี้

ธอร์วิ่งไปขวาง ปิดทางนางไว้ เขาปล่อยนางไปไม่ได้ ไม่ใช่เช่นนี้

“เจ้าหญิงเกว็นโดลิน ได้โปรด อย่างน้อยโปรดให้โอกาสข้าได้รู้ว่าข้าได้ทำสิ่งใดลงไป โปรดบอกข้า”

เจ้าหญิงทอดพระเนตรมองเขาอย่างโกรธเกรี้ยว ยกพระหัตถ์ขึ้นเท้าสะโพก

“ข้าคิดว่าเจ้ารู้ ข้าว่าเจ้ารู้ดีทีเดียว”

“ข้าไม่รู้” ธอร์บอกอย่างจริงใจ

นางจ้องเขาอย่างประเมิน และในที่สุดดูเหมือนจะเชื่อเขา

“คืนก่อนที่เจ้าจะมาพบข้า มีคนบอกข้าว่าเจ้าไปที่ร้านนางโลม และเจ้าขึ้นห้องกับพวกนางหลายคน และเจ้ามีความสุขกับพวกนางตลอดคืน แล้วพอพระอาทิตย์ขึ้น เจ้าก็มาหาข้า จำเรื่องนี้ได้ไหม? ข้ารังเกียจพฤติกรรมของเจ้า รังเกียจที่เคยพบเจ้า ที่เจ้าเคยแตะต้องข้า ข้าหวังว่าจะไม่ต้องเห็นหน้าเจ้าอีก เจ้าทำให้ข้าเป็นตัวตลก และไม่มีใครทำให้ข้าเป็นตัวตลกได้!”

“เจ้าหญิง!” ธอร์ตะโกน พยายามหยุดนางไว้ เพื่อจะอธิบาย “มันไม่จริง!”

แต่คณะนักดนตรีเข้ามาขวางระหว่างพวกเขา นางจึงเสด็จหลบไป ลัดเลาะผ่านฝูงชนไปอย่างรวดเร็วจนเขาหาไม่พบ ในไม่ช้าเขาก็ตามไม่ทัน

ธอร์รุ่มร้อนอยู่ในใจ เขาไม่อยากเชื่อว่าจะมีใครเข้าไปหา และบอกเรื่องโกหกเกี่ยวกับตัวเขา และทำให้เจ้าหญิงต้องผิดใจกับเขา เขาสงสัยว่าใครกันที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ มันแทบจะไม่สำคัญแล้ว โอกาสของเขากับเจ้าหญิงได้ถูกทำลายลงแล้ว เขารู้สึกเหมือนกำลังจะตายอยู่ภายใน

ธอร์หันไปแล้วมองหาไปทั่วห้อง นึกถึงพระราชา เขารู้สึกวูบโหวงราวกับไม่เหลือสิ่งใดให้มีชีวิตอีกต่อไป

ก่อนที่เขาจะขยับไปไหน อัลทันก็ปรากฏตัวขึ้น ขวางทางเขาไว้ ทำหน้าเยาะเย้ย พร้อมกับรอยยิ้มสาแก่ใจ เขาสวมกางเกงรัดรูปทำจากผ้าไหม เสื้อนอกกำมะหยี่ และหมวกขนนก เขามองลงมาที่ธอร์ พร้อมด้วยจมูกและคางยื่นยาว กับความยโสโอหังและหลงตัวเองอย่างที่สุด

“อะไรกันนี่” เขาบอก “ไม่ใช่เจ้าสามัญชนหรอกหรือ เจ้าได้พบว่าที่เจ้าสาวของเจ้าที่นี่หรือยัง? แน่นอนว่ายังไม่พบสินะ ข้าว่าข่าวลือคงแพร่สะพัดไปทั่วแล้ว เรื่องวีรกรรมของเจ้าที่ร้านนางโลม” เขายิ้มแล้วเอียงเข้ามาใกล้ ทำให้เห็นฟันสีเหลืองซี่เล็ก ๆ “ที่จริงข้ามั่นใจเลยล่ะว่าลือกันไปทั่วแล้ว”

“เจ้าเคยได้ยินที่เขาพูดกันไหม หากมีความจริงเพียงน้อยนิด มันจะช่วยกระจายข่าวลือ ข้าพบความจริงน้อยนิดนั่น และตอนนี้ชื่อเสียงของเจ้าถูกทำลายป่นปี้แล้ว เจ้าหนู”

ธอร์เดือดดาลความโทสะ เขาทนอีกต่อไปไม่ได้ จึงพุ่งเข้าใส่และชกเข้าที่ท้องของอัลทัน ทำให้เขาทรุดลงไปกอง

ครู่ต่อมามีหลายคนอยู่บนตัวเขา ทั้งเพื่อนจากกองทหารยุวชน และทหาร เข้ามาแยกพวกเขาออกจากกัน

“เจ้าล้ำเส้นของเจ้าแล้ว เจ้าหนู!” อัลทันตะโกน ชี้มาที่เขาผ่านคนอื่น ๆ “ใครอย่าได้บังอาจแตะต้อง

ราชนิกูล! เจ้าจะถูกแขวนอยู่ในคุกไปตลอดชีวิต! ข้าจะทำให้เจ้าถูกจับ! เตรียมตัวไว้เลย! เมื่อแสงแรกของพรุ่งนี้มาถึง ข้าจะพาพวกเขามาจับเจ้า!” อัลทันตะโกน แล้วหันหลังผลุนผลันจากไป

ธอร์ไม่สนใจเรื่องอัลทันหรือทหารของเขา เขาคิดถึงแต่พระราชา เขาปัดมือเพื่อนทหารยุวชนออก แล้วหันหลังไปหาราชาแม็คกิล เขาผลักคนอื่นออกไปพ้นทางขณะที่รีบไปยังโต๊ะเสวยของพระราชา ใจเขายังปั่นป่วนด้วยอารมณ์ เขาแทบไม่อยากเชื่อว่าเหตุการณ์จะออกมาในรูปนี้ เขามาที่นี่โดยมีชื่อเสียงเพิ่มขึ้น เพียงเพื่อจะถูกทำลายลงโดยงูพิษบางตัวที่ทำให้คนรักของเขาเปลี่ยนใจไปจากเขา แล้วยังตอนนี้ พรุ่งนี้ คำขู่เรื่องถูกจับ กับราชินีที่ทรงเป็นปรปักษ์กับเขา เขากลัวว่าเขาอาจจะเป็นได้เท่านี้

 

แต่ธอร์ไม่สนใจเรื่องพวกนี้ในตอนนี้ ที่เขาต้องทำคือปกป้องพระราชา

เขาผลักแรงขึ้นเพื่อเปิดทางผ่านผู้คน ชนเข้ากับตัวตลก เดินผ่าเข้าไปกลางวงแสดง และในที่สุดหลังจากผลักมหาดเล็กอีกสามคน เขาก็ไปถึงโต๊ะเสวยของพระราชา

ราชาแม็คกิลประทับอยู่ตรงกลางโต๊ะ ทรงถือแก้วไวน์ทำจากหนังสัตว์ไว้ พระปรางแดง ทรงพระสรวลอย่างสนุกสนาน มีแม่ทัพใหญ่ทั้งหลายร่วมโต๊ะเสวย และธอร์ก็ยืนอยู่ต่อหน้าพวกเขาทั้งหมด เขาฝ่าเข้าไปจนถึงม้านั่งยาว และในที่สุดพระราชาทรงสังเกตเห็นเขา

“ฝ่าบาท” ธอร์ตะโกน มีความสิ้นหวังอยู่ในน้ำเสียง “ข้ามีเรื่องต้องทูล! ขอทรงพระกรุณา!”

ทหารองครักษ์เข้ามาผลักธอร์ออกไป แต่พระราชาทรงยกพระหัตถ์ห้ามไว้

“ธอร์กริน!” ราชาแม็คกิลตรัสด้วยสุรเสียงอย่างกษัตริย์ พลางยกแก้วไวน์ขึ้นเสวย “เจ้าหนุ่ม ทำไมถึงเข้ามาที่โต๊ะข้า โต๊ะของกองทหารยุวชนอยู่ตรงโน้น”

ธอร์ถวายคำนับลงต่ำ

“ฝ่าบาท ข้าขอโทษ แต่ข้ามีเรื่องต้องทูลบอกพระองค์”

นักดนตรีตีฉาบใส่หูธอร์ จนในที่สุดพระราชาทรงโบกพระหัตถ์ให้หยุด

เมื่อเสียงดนตรีเงียบลง แม่ทัพทั้งหลายต่างหันมามองธอร์ เขารู้สึกได้ว่าทุกคนหันมาสนใจเขา

“เอาล่ะ เจ้าหนุ่มธอร์กริน ตอนนี้เจ้าพูดได้แล้ว ว่ามา อะไรที่รอจนถึงพรุ่งนี้ไม่ได้?” ราชาแม็คกิลตรัส

“ฝ่าบาท” ธอร์เริ่มทูล แต่แล้วก็หยุด เขาจะบอกว่าอย่างไรดี? ว่าเขาฝันหรือ? ว่าเขาเห็นลางบอกเหตุ? ว่าเขารู้สึกว่าพระราชาจะถูกลอบวางยาพิษ? มันจะฟังไร้สาระหรือไม่?

แต่เขาไม่มีทางเลือก เขาต้องทำต่อไป

“ฝ่าบาท ข้าฝัน” เขาเริ่มทูล “เป็นความฝันเกี่ยวกับพระองค์ ในห้องจัดเลี้ยงแห่งนี้ สถานที่แห่งนี้ ในความฝันบอกว่า....พระองค์ไม่ควรดื่ม”

พระราชาเอนองค์มาข้างหน้า เบิกพระเนตรกว้าง

“ว่าข้าไม่ควรดื่ม?” ทรงทวนคำเสียงดัง ช้า ๆ

แล้วทุกอย่างก็หยุดนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนที่ราชาแม็คกิลจะทรงเอนหลังและหัวเราะด้วยสุรเสียงอันดัง จนสั่นไปทั้งโต๊ะ

“ว่าข้าไม่ควรดื่ม!” พระราชาทวนคำอีก “นั่นมันความฝันอะไรกัน! ข้าควรจะเรียกมันว่าฝันร้าย!”

พระราชาทรงเอนหลังแล้วหัวเราะ โดยมีข้าราชบริพารร่วมหัวเราะด้วย ธอร์หน้าแดงแต่เขาถอยไม่ได้แล้ว

ราชาแม็คกิลโบกพระหัตถ์ ทหารองครักษ์ก้าวเข้ามาจับตัวธอร์แล้วพาออกไป แต่ธอร์สะบัดหนี เขาตั้งใจอย่างยิ่ง ที่จะบอกข้อความนี้แก่พระราชา

ปกป้องพระราชา

“ฝ่าบาท ข้าขอสั่งให้ท่านฟัง!” ธอร์ตะโกน หน้าแดง เอนไปข้างหน้า แล้วทุบโต๊ะด้วยกำปั้นของเขา

โต๊ะสะเทือน และทุกคนหันมามองธอร์

เกิดความเงียบอย่างน่าอึดอัดขึ้น เมื่อพระราชาทรงมีพระพักตร์บึ้งตึง

“เจ้าสั่งอย่างนั้นหรือ?” ราชาแม็คกิลตะโกน “เจ้าสั่งอะไรข้าไม่ได้ เจ้าหนู!” ทรงตะโกนด้วยโทสะที่เพิ่มขึ้น

ทั้งโต๊ะยิ่งเงียบสนิท และธอร์รู้สึกว่าแก้มเขาแดงด้วยความอับอาย

“ฝ่าบาท โปรดประทานอภัย ข้าไม่มีเจตนาจะจาบจ้วง แต่ข้าเป็นห่วงความปลอดภัยของพระองค์ ได้โปรด อย่าทรงดื่ม ข้าฝันว่าพระองค์ทรงถูกลอบวางยาพิษ! ได้โปรด ข้าเป็นห่วงพระองค์อย่างยิ่ง นี่คือเหตุผลที่ข้าบังอาจกล่าววาจาเช่นนั้น”

สีพระพักตร์ของพระราชาค่อยคลายลง ทรงสบตาธอร์นิ่งนาน ก่อนจะทรงหายใจเข้าลึก

“เอาล่ะ ข้าเห็นว่าเจ้าห่วงใยจริง เจ้าเป็นเพียงเด็กโง่เง่า ข้าอภัยให้กับวาจาของเจ้า ไปได้แล้ว และอย่ามาให้ข้าเห็นหน้าอีกจนกว่าจะพรุ่งนี้”

ทรงโบกพระหัตถ์บอกทหารองครักษ์ พวกเขาฉุดกระชากพาธอร์ออกไปอย่างรุนแรงในครั้งนี้ โต๊ะเสวยค่อยกลับคืนความสำราญเมื่อทุกคนกลับไปดื่มต่อ

ธอร์ถูกลากออกมาหลายฟุต หน้าร้อนด้วยความอดสู เขากลัวในสิ่งที่ทำลงไปคืนนี้ และรู้สึกห่อเหี่ยวว่าพรุ่งนี้เขาอาจจะต้องชดใช้ อาจจะถูกไล่ออกไปจากที่นี่ ตลอดกาล

เมื่อทหารนายหนึ่งผลักเขาเป็นครั้งสุดท้าย เขาก็พบว่าตัวเองอยู่ที่โต๊ะของกองทหารยุวชน ห่างจากโต๊ะของพระราชาราวยี่สิบฟุต เขารู้สึกถึงฝ่ามือบนไหล่ เมื่อหันไปก็พบเจ้าชายรีสประทับอยู่ตรงนั้น

“ข้าหาเจ้าทั้งวัน เกิดอะไรขึ้นกับเจ้า?” เจ้าชายตรัสถาม “เจ้าดูเหมือนไปเจอผีมาอย่างนั้น!”

ธอร์รู้สึกปั่นป่วนเกินกว่าจะทูลตอบอะไร

“มานั่งกับข้าสิ...ข้าเก็บที่ไว้ให้” เจ้าชายตรัส

ทรงดึงธอร์ให้นั่งลงข้าง ๆ ที่โต๊ะซึ่งจัดไว้สำหรับราชวงศ์ เจ้าชายก็อดฟรีย์ทรงถือแก้วเหล้าอยู่ในพระหัตถ์ทั้งสองข้าง และที่ประทับอยู่ข้างพระองค์คือเจ้าชายกาเร็ธ กำลังมองด้วยพระเนตรหลุกหลิก ธอร์หวังยิ่งกว่าหวังว่าเจ้าหญิงเกว็นโดลินจะประทับอยู่ที่นั่นด้วย แต่ก็ไม่มี

“มีอะไรหรือ ธอร์?” เจ้าชายตรัสถาม ขณะที่ประทับนั่งข้างเขา “เจ้าจ้องมองโต๊ะนี่เหมือนกับมันจะกัดเจ้า”

ธอร์ส่ายหน้า

“ถ้าข้าทูล ท่านก็ไม่เชื่อข้าอยู่ดี ข้าขอหุบปากไว้ดีกว่า”

“บอกมาเถิด เจ้าบอกข้าได้ทุกเรื่อง” เจ้าชายทรงบอกอย่างจริงจัง

ธอร์มองพระเนตรและรู้ว่าในที่สุดก็มีคนที่จะรับฟังเขาอย่างจริงจัง เขาสูดหายใจลึกก่อนจะเริ่มพูด เขาไม่มีอะไรจะเสียอีกแล้ว

“เมื่อวันก่อน ที่ในป่าตอนที่ข้าอยู่กับพี่สาวของพระองค์ เราเห็นงูหลังขาว นางตรัสว่ามันเป็นลางบอกเหตุ และข้าก็เชื่อเช่นนั้น ข้าไปหาอาร์กอนและเขายืนยันว่าความตายกำลังมา ไม่นานหลังจากนั้น ข้าก็ฝันว่าพระบิดาของพระองค์จะถูกลอบวางยาพิษ ที่นี่ คืนนี้ ในห้องจัดเลี้ยงนี้ ข้ารู้จริง ๆ ว่าพระองค์จะถูกลอบวางยาพิษ มีบางคนพยายามจะลอบปลงพระชนม์” ธอร์ทูล

เขาเล่าทั้งหมดอย่างรวดเร็ว และรู้สึกดีที่ได้บอกมันออกมาให้พ้นอก รู้สึกดีที่มีใครบางคนรับฟังจริง ๆ

เจ้าชายรีสทรงนิ่งเงียบ ขณะที่ทอดพระเนตรมองตาธอร์อยู่นาน ในที่สุดก็ตรัสขึ้น

“เจ้าดูจริงใจ ข้าไม่สงสัย และข้าขอบใจที่เจ้าห่วงใยพระบิดาของข้า ข้าเชื่อเจ้า เชื่อจริง ๆ แต่ความฝันบางครั้งก็มีเล่ห์กล ไม่ได้เป็นอย่างที่เราคิดเสมอไป”

“ข้าทูลพระราชาแล้ว” เขาทูลบอก “แต่พวกเขาหัวเราะข้า แน่นอนเลยว่าคืนนี้พระองค์จะทรงดื่ม”

“ธอร์ ข้าเชื่อว่าเจ้าฝันเรื่องนี้ และข้าเชื่อว่าเจ้ารู้สึกเช่นนี้ แต่ข้าก็มีความฝันไม่ดีเหมือนกัน ตลอดชีวิตข้า เมื่อคืนก่อนข้าก็ฝันว่าถูกผลักออกจากปราสาท และตื่นมารู้สึกเช่นนั้นจริง ๆ แต่ก็เปล่า เจ้าเข้าใจไหม? ความฝันเป็นเรื่องประหลาด และอาร์กอนก็พูดเป็นปริศนา เจ้าอย่าไปถือเป็นจริงจังทั้งหมด พระบิดาสบายดี ข้าสบายดี พวกเราต่างสบายดี พยายามนั่งลงแล้วดื่ม ผ่อนคลายและสนุกกับงานเถอะ”

แล้วเจ้าชายรีสก็เอนพิงพระเก้าอี้ ที่บุด้วยขนสัตว์แล้วทรงดื่ม ทรงโบกพระหัตถ์ให้มหาดเล็ก ซึ่งนำเนื้อกวางชิ้นใหญ่มาวางตรงหน้าธอร์ พร้อมด้วยแก้วเครื่องดื่ม

แต่ธอร์ยังนั่งเฉย จ้องมองอาหารของเขา เขารู้สึกว่าทั้งชีวิตสลายไปตรงหน้า เขาไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไร

เขายังคิดถึงแต่เรื่องความฝัน มันเหมือนอยู่ในฝันร้าย ทั้งที่ยังตื่น นั่งอยู่ที่นี่ มองดูทุกคนดื่มกินอยู่รอบตัว สิ่งที่เขาทำได้คือดูเครื่องดื่ม แก้ว ถูกนำไปถวายพระราชา เขาเฝ้ามองจาน และแก้วทุกใบ ทุกครั้งที่พระราชาทรงดื่ม เขารู้สึกเกร็ง

ธอร์หมกมุ่น เขาไม่อาจหันไปทางอื่น เขาเฝ้ามองและเฝ้ามองอยู่เช่นนั้นหลายชั่วโมง

ในที่สุด ธอร์ก็เห็นมหาดเล็กคนหนึ่งเชิญแก้วเสวยที่ไม่เหมือนใบอื่นมาถวายพระราชา มันเป็นแก้วใบใหญ่ทำจากทองคำบริสุทธิ์ ประดับด้วยแถวทับทิมและไพลิน

เหมือนแก้วที่ธอร์เห็นในความฝันทุกประการ

ธอร์ใจเต้นรัวอยู่ในอก มองดูด้วยความพรั่นพรึงขณะที่มหาดเล็กเข้ามาใกล้พระราชามากขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อเขาอยู่ห่างเพียงฟุตเดียว ธอร์ก็ทนต่อไปไม่ได้ ทุกอณูในตัวเขากรีดร้องว่านั่นคือแก้วยาพิษ

ธอร์กระโจนลุกจากโต๊ะ ฝ่าฝูงชนเข้าไป ใช้ศอกกระแทกคนอื่นที่ขวางทางอย่างแรง

ขณะที่พระราชาทรงเอื้อมหยิบแก้วไปถือไว้ ธอร์กระโจนขึ้นไปบนโต๊ะ เอื้อมมือไปปัดแก้วหลุดจากพระหัตถ์

เกิดความเงียบที่น่าหวาดหวั่นขึ้นทั้งห้องขณะที่แก้วลอยผ่านอากาศและหล่นลงกระทบพื้นหินเสียงดัง

ทั้งห้องเงียบสนิท นักดนตรี ตัวตลกต่างชะงัก คนหลายร้อยคนทั้งบุรุษและสตรีต่างหันมามองเป็นตาเดียว

พระราชาทรงยืนขึ้นช้า ๆ และถลึงตาใส่ธอร์

“เจ้ากล้าดียังไง!” พระราชาตวาดก้อง “เจ้าเด็กอวดดี! ข้าจะจับเจ้าขังเสียที่ทำเช่นนี้!”

ธอร์ลุกขึ้นยืนอย่างหวาดหวั่น เขารู้สึกว่าโลกถล่มใส่เขา เขาอยากจะหายตัวไปเสีย

ทันใดนั้น สุนัขล่าเนื้อตัวหนึ่งก็เดินไปยังไวน์ที่ไหลนองอยู่บนพื้น แล้วเลียกิน ก่อนที่ธอร์จะทันทำอะไร ก่อนที่ทั้งห้องจะมีความเคลื่อนไหวเกิดขึ้นอีก สายตาทุกคู่จ้องไปที่สุนัขตัวนั้น ที่เริ่มทำเสียงน่ากลัว ชวนขนลุก

ครู่ต่อมาสุนัขตัวนั้นก็ตัวแข็งทื่อ ล้มลงนอนขาดใจตาย ทั้งห้องมองที่สุนัขตัวนั้นอย่างตกตะลึง

“เจ้ารู้ว่าแก้วนั้นมียาพิษ!” มีเสียงตะโกนขึ้น

ธอร์หันไปเห็นเจ้าชายกาเร็ธประทับยืนขึ้น แล้วเสด็จมายืนข้างพระบิดา ชี้มาที่ธอร์อย่างกล่าวหา

“เจ้าจะรู้ได้อย่างไรกันว่ามันมียาพิษ? หากเจ้าไม่ใช่คนที่ใส่มันลงไป! ธอร์พยายามวางยาพระราชา!” เจ้าชายกาเร็ธตะโกน

ทั้งห้องฮือฮาด้วยความโกรธเคือง

“เอาตัวไปขังที่คุกใต้ดิน” พระราชามีรับสั่ง

ครู่ต่อมา ธอร์ก็ถูกทหารองครักษ์คว้าตัวไว้จากด้านหลังอย่างแรง แล้วลากเขาไปตามห้อง เขาดิ้นรนและพยายามประท้วง

“ไม่จริง!” เขาตะโกน “ท่านไม่เข้าใจ!”

แต่ไม่มีใครฟัง เขาถูกลากผ่านฝูงชนไปอย่างรวดเร็ว ขณะที่โดนลากตัวไป ธอร์เห็นทุกคนหายไป เห็นทั้งชีวิตหายไปต่อหน้าต่อตา พวกเขาผ่านห้องออกไปยังประตูด้านข้าง โดยประตูกระแทกปิดตามหลังพวกเขา

ข้างนอกนี้เงียบสงัด ครู่ต่อมาธอร์รู้สึกว่าถูกพาตัวลงไป เขาถูกดึงโดยมือหลายมือ ฉุดให้ลงบันไดหินวนคดเคี้ยว เริ่มมืดขึ้นทุกขณะ และในไม่ช้าเขาก็ได้ยินเสียงร้องของนักโทษคนอื่น ๆ

ประตูกรงห้องขังเปิดออก เขารู้ว่าเขาจะถูกขังอยู่ที่นี่ ที่คุกใต้ดิน

เขาดิ้นรน พยายามขัดขืน เพื่อให้เป็นอิสระ

“ท่านไม่เข้าใจ!” เขาตะโกน

ธอร์เงยหน้ามองเห็นทหารยามตัวใหญ่ท่าทางหยาบกระด้าง มีหนวดเคราบนใบหน้าและฟันเหลือง ก้าวเข้ามา

เขามองธอร์อย่างถมึงถึง

“โอ้ ข้าเข้าใจดีเชียวล่ะ” เสียงแหบพร่าของเขาดังขึ้น

เขาเงื้อแขน และสิ่งสุดท้ายที่ธอร์เห็นก็คือหมัดของเขา เหวี่ยงลงมาที่ใบหน้าของธอร์

จากนั้นโลกของเขาก็มืดลง

มีให้อ่านแล้ว!

A MARCH OF KINGS

(เล่ม 2 ในชุด วงแหวนของผู้วิเศษ)

“วงแหวนของผู้วิเศษ มีส่วนผสมทุกอย่างของการประสบความสำเร็จทันที ไม่ว่าจะเป็นโครงเรื่องหลัก โครงเรื่องย่อย ความลึกลับ อัศวินผู้กล้าหาญ ความสัมพันธ์ที่เบ่งบานพร้อมกับการอกหัก การหลอกหลวงและการทรยศ มันจะทำให้คุณเพลิดเพลินได้หลายชั่วโมง และเป็นที่ชื่นชอบของทุกวัย แนะนำให้มีประจำไว้ในห้องสมุดสำหรับคอนักอ่านเรื่องแฟนตาซี”

--Books and Movie Reviews, Roberto Mattos

ขบวนแห่งกษัตริย์นำเราเข้าไปใกล้ขึ้นอีกหนึ่งก้าว สู่มหากาพย์การผจญภัยของธอร์เข้าสู่วัยหนุ่ม เมื่อเขาเริ่มรู้มากขึ้นว่าตัวเองเป็นใคร พลังของเขาคืออะไร เมื่อเขาเริ่มเข้าสู่การเป็นนักรบ

หลังจากที่เขาหนีออกจากคุกใต้ดิน ธอร์หวาดกลัวที่ได้รู้เรื่องการพยายามลอบปลงพระชนม์ราชาแม็คกิลเป็นครั้งที่สอง เมื่อพระราชาสิ้นพระชนม์ ทั้งอาณาจักรก็ปั่นป่วน เพราะทุกคนต่างต้องการราชบัลลังก์ ราชสำนักของพระราชามีเรื่องราวชีวิตมากมาย ทั้งการแย่งชิงอำนาจ ความทะเยอทะยาน ริษยา ความรุนแรงและการหักหลัง การเลือกรัชทายาทจากโอรสและธิดา และยังมีดาบประจำราชวงศ์อันเก่าแก่ ขุมพลังของพวกเขา จะมีโอกาสถูกใช้งานโดยคนที่มาใหม่ แต่ทั้งหมดนี้อาจจะกลับตาลปัตร มีการพบอาวุธสังหาร และบ่วงก็รัดแน่นขึ้นในการตามหาตัวผู้ลอบปลงพระชนม์ ในขณะเดียวกันราชวงศ์แม็คกิลต้องเผชิญหน้ากับอันตรายใหม่จากราชวงศ์แม็คคลาวด์ ซึ่งเตรียมการโจมตีจากภายในอาณาจักรวงแหวน

ธอร์ต่อสู้เพื่อชนะใจเจ้าหญิงเกว็นโดลินอีกครั้ง แต่อาจจะไม่มีเวลาพอ เขาถูกสั่งให้หยุด เพื่อเตรียมตัวไปกับพี่น้องกองทหารยุวชนเพื่อไปทำภารกิจหนึ่งร้อยวัน หนึ่งร้อยวันแห่งนรกอันแสนทรหดที่ทหารกองยุวชนทุกคนจะต้องรอดชีวิตไปให้ได้ กองทหารยุวชนจะต้องข้ามหุบเขา ออกไปนอกการคุ้มครองของอาณาจักรวงแหวน ไปสู่แดนเถื่อน และลงเรือข้ามทะเลทาร์ทูเวียนไปยังเกาะแห่งหมอก ที่เล่ากันว่ามีมังกรคอยคุ้มครองอยู่ เพื่อเป็นการเริ่มต้นสู่วัยหนุ่มของพวกเขา

พวกเขาจะกลับมาได้ไหม? อาณาจักรวงแหวนจะรอดหรือไม่ตอนที่พวกเขาไม่อยู่? และในที่สุดธอร์จะได้รู้ความลับเกี่ยวกับโชคชะตาของเขาหรือไม่?

ด้วยการสร้างสรรค์ตัวละครและเนื้อเรื่องที่เป็นผลงานระดับโลก ทำให้ ขบวนแห่งกษัตริย์เป็นมหากาพย์เรื่องราวของเพื่อนและคู่รัก คู่แข่งและคู่แค้น อัศวินและมังกร แผนทางการเมืองและเล่ห์เพทุบาย การเติบโต

การอกหัก การหลอกลวง ความทะเยอะทะยานและการทรยศ และยังเป็นเรื่องราวแห่งเกียรติยศและความกล้าหาญ โชคชะตา วาสนาและเวทมนต์ เป็นนิยายแฟนตาซีที่จะนำเราไปสู่โลกที่เราจะไม่มีวันลืม ซึ่งเหมาะกับทุกเพศและวัย

เล่มที่ 2-13 ในชุดนี้มีให้อ่านแล้ว!

Купите 3 книги одновременно и выберите четвёртую в подарок!

Чтобы воспользоваться акцией, добавьте нужные книги в корзину. Сделать это можно на странице каждой книги, либо в общем списке:

  1. Нажмите на многоточие
    рядом с книгой
  2. Выберите пункт
    «Добавить в корзину»